สวัสดีครับพี่น้องชาว FPSThailand.com วันนี้พี่แว่นมีหูฟังจากทางค่าย SteelSeries มารีวิวให้ได้ชมกันครับ โดยเจ้าตัวนี้เป็นการเปลี่ยนชื่อรุ่นมาเล็กน้อยครับผม และได้ทำพวก Package Design ใหม่ ใช้เป็นคำว่า SteelSeries Siberia 350 ที่เป็นการเชื่อมต่อแบบ USB ครับ
Specification
50mm Neodymium Drivers, Onboard USB Soundcard
Headphone Frequency Response: 10 – 28000 Hz
Headphone Sensitivity: 80 dBMicrophone
Microphone Frequency Response: 50-16000 Hz
Microphone Pickup Pattern: Unidirectional
Microphone Sensitivity: -42 dB
Microphone Impedance: 2200 Ohm
มาถึงคิวของเจ้า SteelSeries Siberia 350 ตัวนี้ครับ ที่ต้องบอกก่อนเลยว่ามันเป็นตัวที่มีพัฒนาการมาจาก Siberia V3 Prism นั่นเอง แต่จะมีการปรับเปลี่ยนภายใน และสีสันอยู่เล็กน้อยครับ เริ่มต้นด้วยเรื่องของสีสัน จะปรับมาใช้เป็นสีขาว และ ดำ และมีตรงตะแกรงข้างเป็นสีดำทั้งคู่ครับ ทำให้สีขาวจะดูสวยงามเอาเรื่องเลยล่ะ เพราะสัดส่วนมันตัดกันสวยลงตัวดีครับผม นอกจากนั้นแล้ว เค้าก็ยังมีการปรับดีไซน์ในเรื่องของกล่อง package อยู่เล็กน้อย ที่บ่งบอกความเป็น Siberia 350 และปรับเปลี่ยนระบบ Surround เป็น DTS Headphone:X 7.1 Surround Sound ที่เป็นการจำลองมิติของทิศทางเสียงครับ รวมไปถึงรุ่นนี้ จะมี Volume Control มาให้ในสายสัญญาณด้วยจ้า
รูปร่างของเจ้า Siberia 350 ตัวนี้ เรียกได้ว่าองค์รวมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปเยอะกว่า V3 Prism ครับ นอกจากสีสันที่พี่แว่นได้กล่าวไป รวมไปถึงลวดลายของผ้าที่อยู่ด้านใน earcup ของเค้านั่นเอง ที่ทำให้ดูสวยงามและลงตัวมากขึ้น โดยเจ้า Siberia 350 ตัวนี้จะเชื่อมต่อเป็น USB และ ใช้งานปรับจูนระบบเสียงผ่าน SteelSeries Engine 3.0 ครับ เราก็สามารถปรับได้ตามการใช้งานของเรา ทั้งในด้านของการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ก็จะมีฟีเจอร์มารองรับทั้งหมดเลยนั่นเอง จากที่พี่แว่นได้ลองฟังแบบ ดิบๆ สดๆ ไม่ได้ผ่านการปรับจูนใดๆ เจ้า Siberia 350 ก็ยังคงเป็นหูฟังที่จัดจ้านใช้ได้ครับ ย่านเสียงแบบ SteelSeries Style คือมันจะเด่นไปที่ กลาง แหลม ซึ่งเป็นลักษณะเสียงของหูฟังเล่นเกมที่ดีอยู่แล้วครับผม ตัวเบสหรือย่านเสียงต่ำที่ออกมา ก็ทำได้เด่นชัดดีครับ แต่จะไม่ได้แน่นมาก แค่พอฟังสนุก พี่แว่นคิดว่าถ้าเบิร์นทิ้งไว้ เสียงจะอุ่นขึ้นเยอะแน่นอน จากประสบการณ์ที่เคยทดลองหูฟังในครอบครัว Siberia มาครับ ในส่วนของเสียงไมโครโฟน ลองฟังได้จากคลิปรีวิวเลยครับผม
โดยรวมแล้วยังคงรักษาพื้นฐานความยอดเยี่ยมของหูฟังสายเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถใช้งานได้แบบ Multi Platform เช่น Windows , Mac และ PS4 ในส่วนของ PS4 นี่แค่เสียบเข้าไป และไปตั้งค่าในส่วนของ Output เสียงได้เลยครับ ก็จะใช้งานได้ทั้ง Microphone และ หูฟังอย่างเต็มรูปแบบ แต่ท้ายที่สุดนี้ จากความคิดเห็นส่วนตัวของพี่แว่น อยากให้ Siberia 350 มีสายสัญญาณที่ยาวกว่านี้นิดนึงครับ หรือมีตัวต่อความยาวมาให้เพิ่มอีกซักเมตร เพราะเห็นใจคนเล่น PS4 ที่มักจะวางเครื่องไว้ไกลพอสมควรครับผม
