Kinzu Red Pro Edition นั้น มาพร้อม Spec ที่เหมือน Kinzu เดิมครับผม แต่ที่พิเศษก็คือ Feet/Glide ของตัวนี้นั้น เป็น Teflon ที่ทำให้ปัญหาของใครหลายๆคนเวลาเล่น Kinzu แล้วจะหนืดๆ เวลาลากเม้าส์ นั้นลดหายลงไปได้ครับ และ สวิตช์ภายในที่ใช้ควบคุมตัวเมาส์ทำมาจาก Japan Omron Switch ซึ่งถือเป็นสวิทซ์ที่มีความคงทนระดับต้นๆ ส่วนใหญ่เมาส์อื่นจะใช้ China Omron Switch ทำให้ระยะการใช้งานค่อนข้างสั้น นั่นคือ 2 สิ่งที่แตกต่างจาก Kinzu รุ่นอื่นๆ ครับ
พี่แว่นอ้างอิงจากของเดิมนะครับ
Spec ของ Kinzu นั้นเกือบจะเท่ากับ 3.0 เลยครับ จะมากกว่า 3.0 ตรงค่า FPS=9375 (3.0 ค่า FPS อยู่ที่ 9000) ครับ ส่วน IPS (Max Speed) และค่า Acceleration นั้น พอฟัดพอเหวี่ยงกันเลยครับผมตัว Mouse เองปรับความเร็วได้ 2 ระดับ คือ Low และ High โดยที่ถ้าลง Sofeware ก็จะสามารถเซพ Profile ได้ 3 Profile ซึ่งสามารถปรับค่า Cpi ได้ตั้งแต่ 400 , 800 , 1600 , 3200 และปรับค่า
Report Rate ได้ 3 ระดับที่ 125Hz , 500Hz , 1000Hz ซึ่งเมื่อเซพ Profile แล้วจะถูกบันทึกที่ Memory ของตัว
Kinzu เอง เอาไปเล่นที่เครื่องไหนก็จะเป็น Setting ตามที่เราตั้งไว้ และสามารถเปลี่ยน Profile ได้ โดยการกดปุ่มปรับความเร็วและกดปุ่ม Wheel ไปพร้อมๆกัน ก็จะวนไป 1 – 2 – 3 ไปเรื่อยๆครับ
แต่ที่เปลี่ยนไปแน่ๆ นั่นก็คือ “สี” ครับผม มันมาพร้อมกับสีแดง ตัดกับดำ สวยงามเลยทีเดียว และวัสดุของตัวสีแดงนั้น ทำจาก กรอสซี่ครับ จะมันๆ วาวๆ จับแล้วถ้ามีเหงื่อออกมือนี่ ลื่นนิดหน่อยครับ
แต่สาวก Kinzu ก็คงไม่สนใจเป็นแน่แท้ ฮาๆๆ เอาเป็นว่า ใครที่ต้องการ Mouse ทรงเล็ก ไม่ใหญ่มาก และเป็น Mouse ทรง Balance คือใช้ได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา เจ้า Kinzu Red Pro Edition นั้นจะเป็นอีกทางเลือกนึงของท่านครับผม
ส่วน Cord Holder นั้น เป็นเหมือนที่ล็อกสาย Mouse และทำการจัดแจงสายเม้าส์ของเราๆ ที่เกะกะนั้น ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยครับ ใช้งานง่าย และมีน้ำหนักมากพอสมควรครับผม ที่สำคัญในบ้านเรานั้นออกแนวหายากนิดนึงครับผม มันจะค่อนข้างแตกต่างกับ Mouse Bungee หรือ Rantopad นะครับผม เพราะจะไม่มีเสาสปริงให้โยกครับผม แต่ก็ใช้งานได้สบายแตกต่างกันไม่เยอะครับผม
Com 7 ฝากมาบอกว่า สัมผัส Kinzu Red Pro&Cord Holder ได้ก่อนใครในงาน TGS2011 ณ บู๊ต Com 7 นะครับ
