Sound Blaster Tactic3D Rage USB Gaming Headset

สวัสดีครับชาว FPSThailand.com ทุกท่าน วันนี้ผมมีหูฟังจากค่ายที่ขึ้นชื่อทางด้านคุณภาพเสียงอย่าง Creative มาให้ชมกันครับผม โดยในครั้งนี้จะเป็นรุ่น Sound Blaster Tactic3D Rage USB Gaming Headset ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง USB Digital และ Analog ครับผม ไปชมกันน

Technical Specifications

Headphone
Driver Units: 50mm Neodymium magnet
Frequency Response: 20Hz ~ 20kHz
Impedance: 32ohms
Sensitivity: 102dB/mW

Microphone
Microphone Type: Noise Canceling Condenser
Frequency Response: 100Hz ~ 6.5kHz
Impedance: <2.2kohms
Sensitivity: -40dBV/Pa

Interface
Connectivity: USB Cable

[/color]

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

สำหรับหูฟังตัวใหม่นี้ รูปร่างหน้าตาอาจจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไร เพราะยังอยู่ในซีรีย์ของ Tactic3D อยู่นั่นเองครับผม โดยเจ้า Rage นั้นจะต่างออกไปในด้านของสีบอดี้และมีแสงอยู่ตรงที่ครอบหู แต่ฟีเจอร์ต่างๆ จะสามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อเสียบใช้งานผ่านสาย USB เท่านั้น เพราะจะมีตัว driver ภายในตัวหูฟัง ซึ่งสามารถเสียบใช้งานได้โดยไม่ต้องลงไดรเวอร์ครับผม แต่ถ้าเราลงไดรเวอร์ ก็จะเปิดใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่มากขึ้นครับ (การเชื่อมต่อผ่าน USB ใช้งานได้ทั้ง Mac OS และ Windows) มีตัวปรับระดับเสียง(Volume Control)อยู่ที่ด้านหลังที่ครอบหูครับ Mic. สามารถถอดได้

เรื่องของซุ่มเสียงเจ้า SB Tactic3D Rage ตัวนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาครับผม เมื่อต่อใช้งานผ่านระบบ USB โดยปกติแล้วการใช้งานหูฟังผ่านสาย USB เสียงก็จะ Flat กลางๆ ไม่เด่นอะไรมากนัก แต่ว่าเจ้า Tactic3D Rage ตัวนี้มาเต็มครับ ให้เสียงที่ครบทุกย่าน สูง กลาง เบส ฟังเพลงสนุก รายละเอียดการเล่นเกมก็มาครบครับผม แยกแยะทิศทางของเสียงได้เป็นอย่างดี โดยมีเทคโนโลยีของ Sound Blaster ช่วยขับกล่อมและปรุงแต่งเสียงได้เป็นอย่างดีครับผม หากจะใช้ดูหนังตัว Software ก็ยังปรับให้ใช้งาน SBX Pro Studio เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มมิติของเสียงให้ดียิ่งขึ้นครับผม **เรื่องของเสียง Microphone นั้นจากที่พี่แว่นได้อัดผ่านโปรแกรมตัดต่อ จะได้ยินว่าเสียงมันแปลกๆ หนักไปทางแย่ แต่ว่าก่อนหน้านั้นที่ผมได้ใช้งานเจ้า Rage ผ่านการใช้งานกับ TeamSpeak3 เสียงก็จะปกตินะครับ คือได้ยินชัดเจน แต่ว่าไมค์ของ Rage จะดูดเสียงน้อยต้องปรับใน TS ให้รับเสียงมากขึ้นเท่านั้นเองครับผม

สรุปแล้วเจ้า Rage ถือเป็นหูฟังที่ให้คุณภาพในด้านของเสียงอย่างครบถ้วน มีการออกแบบที่เรียบง่าย สวมใส่สบาย ตัดเสียงภายนอกได้ดีในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนจากการเชื่อมต่อแบบ USB มาเป็น 3.5mm Analog ได้อีกด้วยครับผม ซึ่งจะทำให้เราสามารถนำไปใช้งานกับ Soundcard ตัวอื่นหรือต่อกับอุปกรณ์ฟังเพลงอื่นๆ นอกสถานที่ได้อีกด้วย