สวัสดีครับพี่น้องชาว FPSThailand.com วันนี้ทางผมมีเมาส์จากค่าย HyperX มาแนะนำให้ได้ชมกันครับ โดยเจ้าตัวนี้จะเป็นเมาส์ที่ใช้ Optical Sensor และใช้ชื่อรุ่นว่า Pulsefire FPS เพื่อสายเลือดเกมยิง
Features
- Pixart 3310 sensor and four DPI presets provide extreme accuracy for all FPS playstyles
- Ergonomic mouse design with slip-resistant grip — game longer and more comfortably
- Lightweight 95g FPS mouse with optimal weight distribution
- Six-button mouse featuring premium Omron switches for reliability and responsiveness
- Extra-large mouse skates for smooth, controlled gliding
ปล่อยของใหม่กันอีกแล้วสำหรับค่าย HyperX ที่ออกสินค้าออกมาเอาใจแฟนๆ ที่เคยติดอก ติดใจกับหูฟังในซีรีย์ HyperX Cloud กันไปก่อนหน้านี้ครับ โดยในครั้งนี้ออกมาเป็นเมาส์ขนาดกลางไปทางอย่างที่ใช้ชื่อว่า Pulsefire FPS ที่ออกมาได้สอดคล้องกับตัวคีย์บอร์ด Alloy FPS ตัวก่อนหน้านี้ที่เป็น Mechanical Cherry MX Switch นั่นเองครับ และเจ้า Pulsefire FPS ตัวนี้จะใช้ชิปเซ็นเซอร์รุ่น Pixart 3310 ที่เป็น Optical Sensor ใช้งาน DPI ได้ตั้งแต่ 400 จนถึง 3200 DPI โดยปรับได้ที่ตัวเมาส์ทันที ไม่ต้องลงซอฟต์แวร์ให้ยุ่งยากครับ เพราะที่ตัวกดเปลี่ยน DPI จะมีไฟบอกสถานะไว้อย่างชัดเจนว่าสีนี้ กี่ DPI และค่า Polling Rate จะอยู่ที่ 1,000Hz ตายตัวมาเลย
หลังจากที่ลองเอาไปโลดแล่นกับเกม FPS แห่งยุคอย่าง CS:GO นั้น ให้ความรู้สึกถึงความแม่นยำและนิ่งใช้ได้เลยทีเดียวครับในด้านของ Sensor นี้เรียกได้ว่าวางใจได้ดีเลยทีเดียว รวมถึงตัวสวิตซ์คลิกที่เป็น Omron ก็เด้งรับปลายนิ้วเวลากดคลิกมากครับ ถัดมาเป็นความรู้สึกตอนสวมมือจับเมาส์ ส่วนตัวผมแอบคิดว่ามันใหญ่และกว้างไปซักนิด แต่ในด้านของขนาดนี้มันไม่ถูกผิดครับ ขึ้นอยู่กับความชอบจริงๆ และด้วยการที่ใช้ Glide หรือ Feet เมาส์เป็นแผ่นใหญ่สองอัน ด้านบนและด้านล่าง จะทำให้แรงเสียดทานบนตัวแผ่นรองเมาส์นั้นอยู่ในระดับที่เราควบคุมได้ง่าย ไม่ลื่นเกินไปครับ
โดยรวมแล้วถ้าคนชอบเมาส์ใหญ่ จับเต็มมือน่าจะหลงรักเลยทีเดียวครับ เพราะออกแบบมาให้จับใช้งานได้สบายๆ ไม่เมื่อยมือเลย นอกจากจะซื้อมายิงในเกม FPS ต่างๆ ก็ยังปรับใช้งานกับเกมแนวอื่นๆ อย่าง MOBA หรือ MMORPG ได้สบายๆ ไม่ต้องเกร็งมือครับผม
คะแนน: 8.9/10
ขอบคุณทาง HyperX ที่ส่งมอบสินค้ามาให้เราได้รีวิวกันครับ
