แถลงไขจะซื้อ Tom Clancy’s Rainbow Six Siege แพ็คเกจแต่ละตัวต่างกันอย่างไร

สำหรับใครที่กำลังจะมาเริ่มเล่น Tom Clancy’s Rainbow Six Siege อาจจะสงสัยกันว่าต้องซื้อแพ็คเกจตัวไหน เพราะมีให้เลือกมากหลายตัวหลายราคาเหลือเกิน โดยมีตั้งแต่ตัว Rainbow Six Siege – Starter Edition ที่ราคาถูกสุด 349 บาท จนไปถึง Clancy’s Rainbow Six Siege – Complete Edition ตัวแพงสุด 3,699 บาท

วันนี้จะมาชี้ให้เห็นว่าแต่ละแพ็คเกจนั้นมีอะไรแถมมาให้เราบ้าง และเราควรจะซื้อตัวไหนถึงจะคุ้มค่ากับเงินที่เราจะเสียไป มาดูกันเลยครับ

โดยแพ็คเกจจะมีทั้งหมด 5 แพ็คเกจให้เลือกกันคือ

    1.  Rainbow Six Siege – Starter Edition ราคา 349 บาท
      สิ่งที่ได้คือ – ตัวละครพื้นฐานทั้ง 6 ตัวจากทั้งหมด 10 ตัว
      สุ่มฝั่งบุก 3 ตัว : Ash, Thermite, Thatcher, Fuze และ Sledge
      สุ่มฝั่งรับ 3 ตัว : Rook, Mute, Smoke, Jager และ Kapkan.
      – 600 R6 Credit แต่ว่าจะซื้อ Operators ตัวธรรมดาในราคา 12500 Renown หรือ 300 R6 Credits และถ้าเป็นตัว Season Pass จะในราคา 25000 Renown หรือ 600 R6 Creditsข้อดี : ราคาถูกสุดในรุ่นเหมาะแก่ผู้เล่นที่จะเล่นแบบขำ ๆ ไม่ได้กะจะเล่นจริงจังยาว ๆ
      ข้อเสีย : การที่จะปลดล็อคตัวละครใหม่ทั้ง Operators ตัวธรรมดาและแบบ Season Pass นั้นทรมานขั้นสุดต้องเก็บเงิน Renown กว่าจะได้แต่ละตัวใช้เวลานานมาก จะเติม R6 Credit เพื่อปลดตัวก็บานปลายไปอีก
       
    2. Tom Clancy’s Rainbow Six Siege – Standard Edition ราคา 1,299 บาท
      สิ่งที่ได้คือ – ได้ตัวละคร Original ทั้งหมด 20 ตัวข้อดี : ไม่ต้องเสียเวลาปลดล็อคตัว Original ได้มาฟรีถึง 20 ตัว ไม่ต้องเสียเวลาไล่เก็บเหมือนตัว Starter
      ข้อเสีย : แพงขึ้นมาหลักพัน และยังต้องเสียเวลาปลดตัว Season Pass ที่มีทั้งหมด 3 Season 1-3 ในราคา 22500 Renown หรือ 600 R6 Credits กว่าจะเก็บตัวพวกนี้ได้ก็เจียนตายเหมือนกัน
       
    3. Clancy’s Rainbow Six Siege – Advanced Edition ราคา 1,599 บาท
      สิ่งที่ได้คือ – ได้ตัวละคร Original ทั้งหมด 20 ตัว
      – ได้แพ็ค 10 Outbreak Collection
      – 600 R6 Creditข้อดี : ได้ออฟชั่นที่มากกว่าตัว Advanced Edition เพิ่มมามากขึ้นเล็กน้อย
      ข้อเสีย : ตัวออฟชั่นที่ได้มามากขึ้นบางทีไม่ค่อยจำเป็นกับการเพิ่มเงินอีก 300 บาทซักเท่าไหร่
       
    4. Tom Clancy’s Rainbow Six Siege – Gold Edition ราคา 2,299 บาท
      สิ่งที่ได้คือ – ได้ตัวละคร Original ทั้งหมด 20 ตัว
      – ได้แพ็ค 10 Outbreak Collection
      – 600 R6 Credit
      – Year 3 Pass
      (สิ่งที่จะได้ใน Year 3 Pass)
      – 8 ตัวใหม่ใน Year 3
      – ได้  headgear และ uniforms แบบพิเศษ 8 อัน
      – R6 Charm (พวกกุญแจห้อยปืน)
      – 600 R6 Credit (บวกกับจากแพ็คเกจเป็น 1200 R6 Credit)- ได้ 7 วัน Early Eccess จาก Season’s new Operators
      – ส่วนลด 10% จากใน Game Shop
      – เพิ่ม 5% Renown Boost
      – เพิ่มเปอร์เซ็นใน Alpha Pack 0.3%
      ซึ่งในส่วนนี้จะเป็น VIP Membership ที่จะหมดในวันที่ 31 มกราคม 2019ข้อดี : คล้ายกับตัว Advanced Edition แต่จะได้ในส่วนของ Year 3 เพิ่มขึ้นมาที่เป็น Season ล่าสุดนี้ที่กำลังอัพเดทกันอยู่พร้อมกับสิทธิพิเศษ VIP Member
      ข้อเสีย : แพง …
       
    5. Tom Clancy’s Rainbow Six Siege – Complete Edition ราคา 3,699 บาท
      สิ่งที่ได้คือ – ได้ตัวละคร Original ทั้งหมด 20 ตัว
      – ได้แพ็ค 10 Outbreak Collection
      – 600 R6 Credit
      – ได้ Operators ทั้ง 16 ตัวฟรีจาก Year 1 และ Year 2
      – Year 3 Pass(สิ่งที่จะได้ใน Year 3 Pass)
      – 8 ตัวใหม่ใน Year 3
      – ได้  headgear และ uniforms แบบพิเศษ 8 อัน
      – R6 Charm (พวกกุญแจห้อยปืน)
      – 600 R6 Credit (บวกกับจากแพ็คเกจเป็น 1200 R6 Credit)- ได้ 7 วัน Early Eccess จาก Season’s new Operators
      – ส่วนลด 10% จากใน Game Shop
      – เพิ่ม 5% Renown Boost
      – เพิ่มเปอร์เซ็นใน Alpha Pack 0.3%
      ซึ่งในส่วนนี้จะเป็น VIP Membership ที่จะหมดในวันที่ 31 มกราคม 2019ข้อดี : เจ็บแต่จบ ได้ทุกสิ่งทุกอย่างมาเพียบพร้อมไม่ต้องซื้ออะไรอีกแล้วนอกจากพวก Skin หรือ Uniform ของแต่ต่าง ๆ อันนี้อยากได้ก็เสียตังกันไปตามเรื่องตามราว
      ข้อเสีย : โคตรแพง
       

      สรุป หากใครที่จะมาเล่นแบบขำ ๆ ไม่ได้กะจริงจังในระยะยาวก็ซื้อเป็น Starter Edition ได้อยากได้อะไรก็อดทนเก็บซื้อเอา

      แต่ถ้ากะจะเล่นจริงจังในระยะยาวงบประหยัดก็ควรเป็น Standard Edition เพราะจะได้ไม่ต้องลำบากให้หน้าสั่น เพราะมีตัวที่พร้อมที่จะเล่นถึง 20 ตัวรวมถึงเป็นตัวพื้นฐานที่ควรมี

      ส่วน Advanced Edition ส่วนตัวผมคิดว่าสิ้นเปลืองและ Gold Edition ก็เพิ่มแค่ Season 3 เข้ามาถ้ามีเงินก็เพิ่มเป็นตัวนี้ดีกว่า

      สุดท้าย Complete Edition ตามชื่อเลยครับ เจ็บแต่จบรวมทุกอย่างที่จำเป็นเอาไว้แล้ว ถ้ามีเงินก็ซื้อตัวนี้จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่มีก็ย้อนกลับไปที่ Standard Edition เก็บซื้อตัวนี้ดีกว่าจะหากจะเล่นในระยะยาว

      ปล.ตัวผมเองกะเล่นในระยะยาว แต่ดันไปซื้อตัว Starter สุดท้ายงบบานปลายไปมาก ไม่คุ้ม !!
      ปล.2 หากใครหลวมตัวซื้อ Starter แล้วอยากอัพเกรดสามารถทำได้นะครับ

       

 

 

 

ปล.ราคาเกมแต่ละแพ็คเกจที่นำมาเปรียบเทียบ อ้างอิงจาก Steam หากซื้อจาก Ubisolf ราคาอาจจะต่างกันเล็กน้อย