HyperX Cloud Core


สวัสดีครับพี่น้องชาว FPSThailand.com วันนี้พี่แว่นมีหูฟังจากค่าย HyperX ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เล็กน้อย ทำให้มีราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น แต่ประสิทธิภาพในการใช้งานนั้น เต็มสูบเหมือนเดิมเลยครับผม

 

Image
Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Specifications

Headphones
Transducer type: dynamic Ø 53mm
Operating principle: closed
Frequency response: 15Hz–25,000 Hz
Nominal impedance: 60 Ω per system
Nominal SPL: 98±3dB
T.H.D.: < 2%
Power handling capacity: 150mW
Sound coupling to the ear: circumaural
Ambient noise attenuation: approx. 20 dBa
Headband pressure: 5N
Weight with microphone and cable: 320g
Cable length and type: 1m + 2m extension
Connection: 3.5mm mini stereo & mic plug (4 pole)Microphone
Transducer type: condenser (back electret)
Operating principle: pressure gradient
Polar pattern: cardioid
Power supply: AB powering
Supply voltage: 2V
Current consumption: max 0.5 mA
Nominal impedance: ≤2.2 kΩ
Open circuit voltage at f = 1 kHz: 20 mV / Pa
Frequency response: 100–12,000 Hz
THD: 2% at f = 1 kHz
Max. SPL: 105dB SPL (THD≤1.0% at 1 KHz)
Microphone output: -39±3dB
Length mic boom: 150mm (including gooseneck)
Capsule diameter: Ø6*5 mm
Connection: 3.5mm mini stereo plug

สำหรับ HyperX ชื่อนี้เหล่าเกมเมอร์เริ่มรู้จักและให้การยอมรับกันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ เนื่องจากตัวแรกอย่าง HyperX Cloud ที่เปิดตัวมาได้สวยงาม ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่มอบให้มาอย่างคุ้มราคา และตามมาตบตูดด้วย Cloud II ที่มี USB Soundcard มาให้อีก ทำให้เป็นทางเลือกใหม่ๆ กับเหล่าเกมเมอร์ทั้งในด้านของ eSports ที่ได้เห็นเหล่าโปรเกมเมอร์เลือกใช้งานกัน ในครั้งนี้เป็นบทบาทของ HyperX Cloud Core ที่ตัวหูฟังนั้นมีคุณภาพยอดเยี่ยมเท่าเดิม แต่ได้ตัดพวกอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกไปทั้งหมดครับ ทำให้ได้ราคาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

สำหรับ Cloud Core เองนั้น แกะกล่องออกมาจะเจอแค่ตัวหูฟัง, ไมโครโฟนถอดได้ และสายต่อความยาว มีเพียงแค่นี้ครับ แต่ย้ำอีกครั้งว่า คุณภาพของหูฟังและ driver ขับเสียงต่างๆ นั้นยังคงมีมาตรฐานและคุณภาพในการใช้งานเท่าของเดิม ยังให้คุณภาพเสียงทั้งในด้านของการเล่นเกม แยกแยะทิศทางและรายละเอียดได้ดีมาก ในด้านการฟังเพลงได้อย่างครบครัน เสียงอิ่มเอิบ ฟังสนุก เสียงกลาง แหลม เบส มาครบเครืองครับ

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นรุ่นที่ออกมาตอบโจทย์เรื่องราคาได้อย่างคุ้มค่า ด้วยการตัดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกไป และจุดหนึ่งที่พี่แว่นอยากแชร์ก็คือเรื่องของ Earcup ของเจ้า Cloud Core ตัวนี้ รู้สึกว่ายาวกว่าตัวก่อนๆ เล็กน้อยครับ ทำให้พี่แว่นรู้สึกว่ามันใส่แล้วครอบหูได้ดีกว่า ใส่สบายกว่าเล็กน้อยครับผม ในจุดนี้อาจจะไม่ได้มีการบอกไว้ในสเป็ค แต่เป็นจุดที่พี่แว่นและคิรอสรู้สึกจริงๆ จากที่ลองใส่เทียบกันดูครับ

ขอบคุณทาง Interplay fanpage: http://www.facebook.com/InterPlay.th ที่ช่วยส่งสินค้ามาให้เราได้รีวิวกันครับ