Corsair VOID RGB


สวัสดีครับชาว FPSThailand.com วันนี้พี่แว่นมีหูฟังจากค่ายเรือใบอย่าง Corsair gaming ที่มีหูฟังซีรีย์ใหม่ชื่อว่า VOID มารีวิวให้ได้ชมกันครับ โดยตัวแรกที่พี่แว่นได้มาคือ VOID RGB ในรุ่นที่เป็นการเชื่อมต่อแบบ USB นั่นเอง

Image
Image
Image
Image
Image
Image
Image
Image

Image

Image
Image
Image

ImageTechnical specifications

Headphones
Type: Dolby Headphone 7.1 positional audio
Frequency Response: 20Hz to 20kHz
Impedance: 32k Ohms @ 1kHz
Sensitivity: 107dB (+/-3dB)
Drivers: 50mm
Connector: USB Type A

 

Microphone
Type: Unidirectional noise-cancelling condenser with adjustable, rotating boom and             infoMic lighting
Impedance: 2.2k Ohms
Frequency Response: 100Hz to 10kHz
Sensitivity: -38dB (+/-3dB)

สำหรับ Corsair Gaming คงจะเป็นยี่ห้อที่หลายๆ คนคุ้นหูคุ้นตากันพอสมควรครับ ด้วยมาตรฐานของอุปกรณ์ที่มีคุณภาพทั้งงานประกอบและวัสดุต่างๆ ในการใช้งานครับ ซึ่งตัวที่พี่แว่นจะรีวิวนี้คือหูฟังในซีรีย์ใหม่อย่าง VOID ที่แบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลักๆ คือ RGB USB , Wireless และแบบต่อแจ๊คธรรมดา 3.5mm ครับ และแน่นอนว่าตัวที่พี่แว่นถืออยู่นี้คือ Corsair Gaming VOID RGB USB นั่นเอง ซึ่งเป็นรุ่นที่มีการเชื่อมต่อแบบ USB และเป็นซาวการ์ดในตัว จุดพิเศษคือสามารถจูนสีไฟ Backlight ที่บริเวณหูฟังได้อิสระในรูปแบบ RGB ที่เราคุ้นเคย

ในด้านของวัสดุงานประกอบของเจ้า VOID RGB ตัวนี้ ถือว่าอยู่ในระดับดีเลยทีเดียวครับ พี่แว่นจับๆ ดูแล้วจัดว่าแข็งแรงทนทานดีเลยทีเดียว ตัวหูฟังมีน้ำหนักไม่เยอะ ใส่ได้สบายโดยรวมแล้วจะเป็นพลาสติกทั้งตัว บริเวณ Earcup จะเป็นผ้า ทำให้เราใส่ใช้งานได้สบายๆ ไม่อึดอัดหรือร้อนหูแบบหนังครับ พอลองสวมใส่แล้วตัวหูฟังไม่หนีบหัวเลยครับ และออกไปทางหลวมนิดๆ ถ้าคนที่ชอบความสบายน่าจะโดนใจเลยล่ะครับ พอยกก้านไมโครโฟนลงแล้ว ก็จะพอดีๆ กับบริเวณปาก ยังไงลองฟังได้ในคลิปรีวิวได้เลยครับ ในส่วนของน้ำนวลเสียงเจ้า VOID RGB USB ตัวนี้จะให้โทนเสียงในลักษณะ Flat กลางๆ ตามสไตล์ของหูฟังเล่นเกมครับ เสียงกลางเด่นชัด

ด้วยความที่ตัว VOID RGB ตัวนี้จะเชื่อมต่อเป็น USB ทำให้เราสามารถปรับการใช้งานต่างๆ ได้ภายใน Corsair Utility Engine (CUE) ที่เป็น Software center เอาไว้ตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆ ของ Corsair Gaming ได้ภายในตัว และสามารถปรับแสงไฟ LED Backlight ที่ตัวหูฟังได้ รวมไปถึงการปรับจูนโทนเสียงต่างๆ (EQ) ตามที่เราชื่นชอบได้นั่นเองครับ ถือว่าเป็นหูฟังโมเดลใหม่ที่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์มาจาก Vengeance ตัวเดิมอยู่พอสมควรครับ ใครที่สนใจก็ลองหาซื้อได้แล้ว ณ ตอนนี้

ขอขอบคุณ
Corsair ประเทศไทย
ที่ใจดีให้อุปกรณ์ กับทาง FpsThailand ได้ลองใช้กันครับ

Glacius หนุ่มน้อยแชมป์โลก PB ปี 2011 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ตอนนี้ผันตัวมาทำงานเกี่ยวกับวงการ eSports แล้ว ทักงานแข่ง งานพากย์ และบทความต่างๆ