สวัสดีครับพี่น้องชาว FPSThailand.com วันนี้เราอยู่กับ Gaming Notebook ที่คุ้มราคาตัวนึงในตลาดเลยก็ว่าได้ครับ จากค่าย Lenovo ในรุ่น Legion 5i ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้ครับ โดยจะมีหลากหลายโมเดลที่ออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน บางคนอาจจะสับสนเล็กน้อย แต่เจ้า Lenovo Legion 5i นี้ จะนำทัพมากับ Intel 10th Gen Processor นั่นเองครับ
ในสไตล์หลักของทาง Lenovo นั้น จะออกแบบมาในแนวทางของความเรียบง่าย สวย ดุ เรียบหรู เลือกใช้โทนสีดำด้าน และตัดด้วยความเงาของโลโก้ Lenovo และ Legion ตามขอบมุมจอทั้งสองฝั่ง เพื่อให้สะดุดตามากขึ้นนั่นเอง
การออกแบบนั้นจะมีมาตรฐานที่ลงตัวมาตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้ อย่าง Legion 5 , Y530 และ Y540 ด้วยความที่เป็นการออกแบบที่ลงตัว เพราะตอบโจทย์เรื่องของการระบายความร้อนโดยรวมของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี เพราะทำได้ทั้ง 3 ทิศทาง และการเชื่อมต่อที่ยกมาไว้ด้านหลังเครื่อง ทำให้การใช้งานดูไม่เกะกะเมื่อเราเชื่อมต่อสายต่างๆ นั่นเอง
ตัว Lenovo Legion 5i นั้นพกพาเอาขุมพลังหัวใจหลักอย่าง 10th Gen Intel®Core™ H-Series ที่จะนำมาเพื่อการเล่นเกมและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด Legion 5i ด้วยความเร็วสูงสุด 5.1GHz 8 cores
โดยตัวที่เราได้มานี้ มี CPU เป็นรุ่น Intel®Core™ i7-10750H (Up to 5.0 GHz 6 Core 12 Threads)
และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti พร้อมจอ IPS FHD 15.6″ ตอบโจทย์เกมเมอร์ด้วย Refresh Rate ระดับ 144Hz และยังแสดงผลของภาพออกมาได้อย่างสวยงาม
RAM: 8GB | Storage เป็น SSD 512GB เต็มอัตราการใช้งาน สำหรับเกมเมอร์เป็นอย่างดี
ในด้านของภายในอย่างคีย์บอร์ด ถูกยกระดับอัพเกรดขึ้นมาให้สวยงาม และลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยจะมีชื่อว่า Legion TrueStrike keyboard ที่จะเป็นการออกแบบปุ่มและ Layout ต่างๆ ได้อย่างลงตัว วางนิ้วลงไปแล้วรู้สึกว่าไม่ขัดกับการเล่นเกม และรวมถึงการพิมพ์งาน ทำงานต่างๆ กด Shortcut และHot Key ได้แม่นยำตามหลักสูตร และยังเป็นคีย์บอร์ดระดับ FullSize ที่ไม่ขาดหายไปในขนาด 15.6″ อีกด้วยครับ
อีกหนึ่งจุดที่ควรสังเกต คือเรื่องของไฟบอกสถานะตรงปุ่ม Power นั่นเองครับ โดยจะมีการแสดงสถานะการใช้งาน และการทำงานของตัวเครื่องไว้อย่างชัดเจน หากเป็นไฟสีฟ้า จะทำงานด้วยความเงียบ และเปรียบเสมือนโหมด Eco ในส่วนของไฟสีขาว จะเป็นการทำงานทั่วไป และหากกดให้เป็นสีแดงนั้นจะเป็นแบบ High Performance คือทำงานอย่างเต็มที่นั่นเอง การเปลี่ยนโหมดในส่วนนี้จะทำได้ด้วยการกดปุ่ม Fn + Q เปลี่ยนไปตามการใช้งานของเราครับ
ตำแหน่งของพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ตามที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ครับ คือการจัดวางที่ลงตัว ฝั่งซ้ายและฝั่งขวานั้น นำไว้ซึ่ง USB Port ที่จำเป็นต่อการใช้งาน ฝั่งละ 1 พอร์ต และรวมถึงแจ๊คหูฟังด้วยนั่นเอง แต่พอร์ตต่างๆ เช่น LAN , Display และ USB ต่างๆ ที่เหลือ จะอยู่ที่ด้านหลัง เพื่อการจัดการสายต่างๆ ทำออกมาได้อย่างดี ไม่เกะกะต่อการใช้งาน
- USB-A 3.1 Gen 1 (always on)
- 3 x USB-A 3.1 Gen 1
- USB-C 3.1 (DisplayPort™)
- HDMI 2.0
- RJ45 ethernet
- Mic / headphone combo
- Kensington lock slot
มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ เนื่องจากผมได้ใช้เวลากับเจ้า Legion 5i นี้ไม่มากนัก แต่ช่วงเวลาที่ได้สัมผัสกันนั้น ก็ทำให้ได้รู้จักกับประสิทธิภาพของตัวเครื่องได้อย่างเต็มรูปแบบเลยทีเดียว โดยผมได้จับเจ้า Legion 5i ตัวนี้ กระหน่ำเล่นเกม FPS ที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง VALORANT และแน่นอนว่า PUBG ด้วยเช่นกันครับ โดยผลจะเป็นอย่างไร ลองมารับชมกัน
หลังจากที่เปิดเข้าเกมมา ก็สัมผัสได้ถึงความลื่นไหลตั้งแต่หน้าเมนู ด้วยหน้าจอ 144Hz โดยตัวเกม PUBG นั้น ผมได้ลองปรับระดับ Very Low @1080p คือเซ็ตอัพที่โปรเกมเมอร์หลายๆ คนปรับใช้งานกัน เพื่อความมองง่าย สบายตา และความลื่นระดับสูงสุดนั่นเองครับ โดย Frame Rate ที่ได้นั้น จัดว่าเทพเลยทีเดียว
เฟรมเรทต่ำที่สุด (โหม่งลง Pochinki) อยู่ที่ 75 fps
เฟรมเรทเฉลี่ย อยู่ที่ 95-100 fps
เฟรมเรทสูงสุด อยู่ที่ 187 fps
เรียกว่าพื้่นฐานการใช้งานนั้น พร้อมลุยทุกสถานการณ์อย่างเต็มตัวเลยทีเดียวครับ ลงเมืองใหญ่ๆ ก็ลื่นไหล พร้อมฟาร์ม พร้อมบวก แต่หากเป็นคนชอบปรับภาพสวยๆ นั้น จะดรอปลงมาอีกราวๆ -10fps โดยประมาณครับ
ถัดมา ผมได้ลองกับ VALORANT แบบปรับภาพสวยสุด สูงสุด เฟรมเรทเฉลี่ยๆ อยู่ที่ 230+ และพุ่งไปถึงร่วมๆ 300fps เลยทีเดียวครับ ระหว่างเล่นใน Match นั้น ก็แทบจะไม่ตกไปจาก 200fps เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น VALORANT คือสบายๆ มากครับผม
จากสเป็คระดับนี้ คาดว่าจะเป็นเพราะประสิทธิภาพของเจ้า Intel 10th Gen ด้วยครับ ที่สามารถดึงความเทพของเครื่องขึ้นไปอีกระดับ และถึงแม้ว่าจะเป็นการ์ดจอ GTX1650Ti ก็แสดงผลออกมาได้เป็นอย่างดี พร้อมเล่นเกม FPS Multiplayer เกรด A ได้ทุกเกมในยุคนี้ไม่ว่าจะเป็น R6: Siege , APEX LEGEND ก็เล่นได้อย่างสบายๆ ในระดับภาพ Med – High เลยก็ว่าได้ครับ ด้วยจอที่ลื่นไหล และสีสันสดใสสมจริงจาก IPS ตัวนี้
สิ่งที่ผมประทับใจหลักๆ คือเรื่องของการออกแบบจุดเชื่อมต่อต่างๆ ที่ทำให้การใช้งานไม่เกะกะโดยเฉพาะการวางมือตอนเราเล่นเกมครับ และที่สำคัญ ระหว่างเล่นเกมอยู่ตลอดเวลานั้น ผมไม่รู้สึกถึงความร้อนสะสม ที่ส่งผ่านขึ้นมาจากตัวบอดี้ของเครื่องนี้เลย จัดว่าออกแบบระบบ ระบายความร้อนออกมาได้เป็นอย่างดีครับ
สำหรับใครที่มองหา Gaming Notebook ที่ราคาไม่แรงมากนัก และมีประสิทธิภาพมากพอที่จะใช้ทั้งในการทำงาน และเล่นเกมไปด้วยกันในตัวเดียว อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยเรียบ พกพาง่าย น้ำหนักกำลังดี เจ้า Lenovo Legion 5i ตัวนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคุณที่ลงตัวมากที่สุดเลยครับ
จากที่ได้ทราบราคามา สเป็คดี พร้อมใช้งานขนาดนี้ อยู่ที่ 3x,xxx ต้นๆ เท่านั้นเองครับ
ขอขอบคุณทางแบรนด์ๅ Lenovo ที่ส่งสินค้ามาให้เราได้ทดสอบกันครับ
